เทคนิคการพิมพ์ลายเสื้อด้วยเครื่องสกรีน มีดังนี้
-
การเตรียมผ้า ผ้าที่จะนำมาพิมพ์ควรเป็นผ้าที่ยืดหยุ่นได้ดี ไม่บางหรือหนาเกินไป เพื่อให้หมึกติดแน่นและคงทน ผ้าที่นิยมนำมาพิมพ์เสื้อ ได้แก่ ผ้าคอตตอน ผ้าฝ้ายผสมโพลีเอสเตอร์ และผ้าสแปนเด็กซ์
-
การเตรียมลาย ลายที่นำมาพิมพ์ควรเป็นลายที่คมชัด ความละเอียดสูง เพื่อให้งานพิมพ์ออกมาสวยงาม ลายที่นิยมนำมาพิมพ์เสื้อ ได้แก่ ลายกราฟิก ลายการ์ตูน ลายข้อความ และลายโลโก้
-
การเตรียมหมึก หมึกที่ใช้พิมพ์เสื้อมีหลายชนิด แต่ละชนิดมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน การเลือกหมึกจึงควรพิจารณาจากเนื้อผ้าที่จะนำมาพิมพ์ เช่น หมึกสกรีนสำหรับผ้าสีอ่อน หมึกสกรีนสำหรับผ้าสีเข้ม หมึกสกรีนสำหรับผ้าสปอร์ต หมึกสกรีนสำหรับผ้ายีนส์ เป็นต้น
-
การเตรียมเครื่องสกรีน เครื่องสกรีนมีหลายประเภท แต่ละประเภทมีวิธีการใช้งานที่แตกต่างกัน การเลือกเครื่องสกรีนจึงควรพิจารณาจากลักษณะงานพิมพ์ เช่น เครื่องสกรีนโรล เครื่องสกรีนแบบกดมือ เครื่องสกรีนแบบกดเท้า เป็นต้น
-
ขั้นตอนการพิมพ์ ขั้นตอนการพิมพ์ลายเสื้อด้วยเครื่องสกรีน มีดังนี้
- ปรับอุณหภูมิของเครื่องรีดร้อนให้เหมาะสมกับเนื้อผ้าที่จะนำมาพิมพ์
- ติดฟิล์มถนอมผ้าลงบนเสื้อ
- วางกระดาษซับลิเมชั่นลงบนผ้า
- วางเทปล่อนลงบนกระดาษซับลิเมชั่น
- กด เครื่องสกรีนเสื้อ ลงบนเสื้อโดยใช้เครื่องรีดร้อน
- ลอกฟิล์มถนอมผ้า และ กระดาษซับลิเมชั่น ออก
-
การรีดร้อน การรีดร้อนเป็นขั้นตอนสำคัญในการพิมพ์ลายเสื้อด้วยเครื่องสกรีน เพื่อให้หมึกติดแน่นกับเนื้อผ้า โดยต้องรีดร้อนให้ทั่วทั้งลายและทิ้งไว้อย่างน้อย 30 วินาที
นอกจากเทคนิคพื้นฐานเหล่านี้แล้ว ยังมีเทคนิคการพิมพ์ลายเสื้อด้วยเครื่องสกรีนเพิ่มเติมอีก เช่น
-
เทคนิคการพิมพ์ลายเสื้อแบบหลายสี เป็นการพิมพ์ลายเสื้อที่มีสีสันหรือลายเส้นหลายสี โดยต้องเตรียมบล็อกสกรีนสำหรับแต่ละสีแยกกัน
-
เทคนิคการพิมพ์ลายเสื้อแบบทรานเฟอร์ เป็นการพิมพ์ลายเสื้อโดยใช้กระดาษทรานเฟอร์ที่มีหมึกพิมพ์อยู่ติดอยู่ด้านหนึ่ง นำมารีดลงบนเสื้อเพื่อให้หมึกติดกับเนื้อผ้า
-
เทคนิคการพิมพ์ลายเสื้อแบบ DTG เป็นการพิมพ์ลายเสื้อโดยตรงลงบนผ้าโดยใช้เครื่องพิมพ์ดิจิทัล เหมาะกับการพิมพ์ลายเสื้อที่มีความละเอียดสูง
การเลือกเทคนิคการพิมพ์ลายเสื้อด้วยเครื่องสกรีนที่เหมาะสม จะช่วยให้ได้งานพิมพ์ที่มีคุณภาพและสวยงามตรงตามความต้องการ