คู่มือการเลือกซื้อ เครื่องรีดร้อน (เปรียบเทียบราคาและคุณสมบัติ)

เครื่องรีดร้อน Heat press, Heat Transfer

1. งานสกรีนแบบ Transfer เป็นการพิมพ์ลายสกรีนลงบนกระดาษทรานเฟอร์ด้วยหมึกพิกเม้นต์ แล้วนำมารีดลายกลับด้านลงบนเสื้อผ้าที่ต้องการด้วยเครื่องรีดร้อน ลายจะติดบนพื้นผิวของเนื้อผ้า ไม่ซึมเข้าไปในเนื้อผ้า เนื้อสกรีนแข็ง ใช้สำหรับการสกรีนจำนวนน้อย ๆ ทำได้หลากหลายสี ไม่จำกัดสีสกรีน ไม่จำกัดชนิดเสื้อผ้า
2. งานสกรีนแบบ Sublimation เป็นการพิมพ์ลายสกรีนลงบนกระดาษซับลิเมชั่นด้วยหมึกซับลิเมชั่น แล้วนำมาสกรีนบนเสื้อผ้า ถุงผ้า แก้ว หรือวัตถุตามต้องการด้วยเครื่องรีดร้อน จากวิธีการระเหิด สีสกรีนจะซึมเข้าไปในเนื้อผ้า ชิ้นงานจะทนทาน ใช้กับงานสกรีนปริมาณน้อย ๆ ได้ ไม่จำกัดสีสกรีน สีซึมเข้าใยผ้าหรือเนื้อวัสดุ ไม่หลุดลอก เนื้อสกรีนอ่อนนุ่ม สกรีนได้ดีเฉพาะผ้าสีอ่อน เนื้อผ้าโพลีเอสเทอร์หรือโพลีเอสเทอร์ผสมคอตตอน สำหรับผ้าสีเข้ม เนื้อผ้าฝ้าย สีสกรีนจะไม่สามารถซึมเข้าไปได้
3. งานสกรีนแบบ Flex เป็นงานที่ใช้ร่วมกันระหว่างเครื่องตัด Flex กับเครื่องรีดร้อน มักทำเป็นโลโก้หรือตัวอักษร ไม่สามารถนำภาพถ่ายมาเป็นแบบสกรีนได้ โดยความร้อนจะทำให้กาวด้านหลังวัสดุที่จะทำลวดลายละลายและยึดติดกับเสื้อผ้าได้ เช่น กำมะหยี่ PU Polyflex เป็นต้น สกรีนในปริมาณน้อยได้ สวยงาม ซึ่งลวดลายจะนูนขึ้นมาเล็กน้อย ติดลวดลายได้บนวัสดุที่หลากหลาย เนื้อผ้าหลากชนิด โดยหากแบ่งประเภทเครื่องรีดร้อนตามลักษณะการทำงานจะแบ่งเป็น 2 ลักษณะคือ
   • แบบกดหรือแบบปากเป็ด เครื่องรีดร้อนลักษณะนี้จะประหยัดพื้นที่การใช้งาน หน้าเตามีความกว้างทำให้มีพื้นที่สกรีนรองรับลายขนาดใหญ่ได้ แต่การใช้งานไม่สะดวกมากนัก
   • แบบสวิงด้านข้าง เครื่องรีดร้อนขนาดกะทัดรัด ใช้สกรีนงานได้หลายประเภทโดยถอดเปลี่ยนหัวสกรีนวัสดุต่าง ๆ ได้ คุ้มค่าในการใช้งาน แต่ใช้พื้นที่เยอะ หน้าเตาต้องหมุนสวิงจากด้านข้างไปด้านหลัง ไม่ต้องออกแรงกดมาก หรือหากแบ่งประเภทเครื่องรีดร้อนตามระบบการทำงานจะแบ่งเป็น 3 ระบบคือ
   • แบบธรรมดา เพียงเสียบปลั๊กไฟ ใช้แรงคนยกคันโยกกดชิ้นงานสกรีนเครื่องรีดร้อนก็ทำงานทันที ทนทาน ใช้กับปริมาณงานไม่มาก งานไม่รีบเร่ง
   • แบบนิวเมติกส์ ต้องใช้ปั๊มลมประกอบการทำงาน ถือเป็นเครื่องอัตโนมัติ แต่จะมีเสียงดังรบกวน เปลืองไฟ ใช้กับงานที่มีปริมาณมาก
   • แบบสุญญากาศ คล้ายการอบ ใช้กับชิ้นงานที่ต้องการพิมพ์ลวดลายเต็มพื้นที่ รอบด้าน ถือเป็นงานระดับพรีเมี่ยมเป็นเอกลักษณ์ ใช้กับชิ้นงานที่แข็งเท่านั้น

คู่มือการเลือกซื้อเครื่องรีดร้อน Heat Press

1. ขนาดของชิ้นงานที่ต้องการสกรีน อาทิ เสื้อยืดทั่วไป บริเวณหน้าอกเสื้อ ด้านหลังเสื้อ ป้ายคอเสื้อ หรือ หมวก รองเท้า ธง ป้าย เป็นต้น โดยหากชิ้นงานต้องการลายสกรีนขนาดประมาณ เอ4 ต้องเลือกซื้อเครื่องที่สามารถสกรีนลายได้ใหญ่กว่า ซึ่งเครื่องสกรีนขนาด 29×38 ซม.หรือหากชิ้นงานต้องการลายสกรีนขนาดประมาณ เอ3 ต้องซื้อเครื่องสกรีนขนาด 40×50 ซม. จึงจะตอบโจทย์ได้ดี โดยเครื่องรีดร้อนต้องสามารถรองรับชิ้นงานในการสกรีนได้ซึ่งต้องมีขนาดใหญ่กว่าขนาดลวดลายที่ต้องการสกรีน
2. ประเภทของชิ้นงานที่ต้องการสกรีน ต้องรองรับประเภทงานที่ต้องการได้ครอบคลุม ต้องการสกรีนอะไรได้บ้าง อาทิ สกรีนเสื้อยืด คอเสื้อ กระเป๋าเสื้อ ชายกางเกง หมวก รองเท้า ถุงเท้า กระเป๋า หมอน โลโก้ เป็นต้น รวมไปถึงชนิดผ้า ชนิดของชิ้นงาน พิจารณาสำรวจความต้องการการใช้งานให้รอบด้านเพื่อให้ครอบคลุมมากที่สุด จะได้ไม่ตัดสินใจซื้อเครื่องรีดร้อนผิดพลาด
3. จำนวนหรือปริมาณที่ต้องการสกรีนต่อครั้ง ต่อวัน ซึ่งจะใช้ในการคำนวณชิ้นงานที่ได้ต่อครั้งต่อวันตามความต้องการของลูกค้าและพิจารณาวิธีการปฏิบัติงานของผู้ที่ประจำเครื่องรีดร้อนนั้น เช่น เครื่องรีดร้อนแบบมือกดหากงานมีปริมาณมาก การใช้มือกดในระยะเวลานานเกินไปจะทำให้เมื่อยล้าจากการทำงาน ป้อนงานไม่ทัน เสียเวลายกเตา ดังนั้น เช่น หากชิ้นงานไม่เกิน 300 ชิ้นต่อวันสามารถเลือกใช้กับเครื่องรีดร้อนแบบมือกดได้ แต่หากชิ้นงานมีปริมาณเป็นหลักพันต่อวันอาจต้องเลือกซื้อเครื่องรีดร้อนที่มีสองถาดแบบอัตโนมัติ เป็นต้น
4. สถานที่ในการตั้งวางเครื่องรีดร้อน การทำงานของเครื่องทำให้เกิดความร้อนจากหน้าเตา ยิ่งเครื่องที่มีกำลังสูงหน้าเตาก็จะยิ่งมีขนาดใหญ่ตาม ต้องมีพื้นที่ในการทำงานที่เหมาะสม ระบายอากาศได้ ไม่แออัด คับแคบ เกินไป และต้องมีพื้นที่เพียงพอสำหรับการติดตั้งปั๊มลมที่มาพร้อมกับเสียง จึงต้องเตรียมพื้นที่ในการติดตั้งให้เหมาะสมกับเครื่องรีดร้อนที่ต้องการให้มากที่สุด โดยมีข้อแนะนำเพิ่มเติมคือ
   • กรณีต้องวางเครื่องในสถานที่บ้านพัก ห้องพัก หน้าร้าน โชว์รูม ให้ใช้เครื่องรีดร้อนแบบมือกด จะใช้พื้นที่น้อย เสียงรบกวนน้อย
   • กรณีต้องวางเครื่องในอาคาร ตึก หรือโรงงาน ที่มีพื้นที่เพียงพอ สามารถใช้เครื่องรีดร้อนที่มีปั๊มลมด้วยจะเหมาะสมมากกว่า ทั้งนี้ต้องพิจารณาปัจจัยอื่น ร่วมด้วย
5. กำลังไฟ เครื่องรีดร้อนขนาดเล็กย่อมกินไฟน้อยกว่าเครื่องขนาดใหญ่ ซึ่งจะตามมาพร้อมกับค่าไฟที่แปรผันตามขนาดของเครื่องและการใช้งาน ให้พิจารณาเรื่องนี้ประกอบไว้ด้วย รวมไปถึงการเตรียมจุดต่อไฟ การรองรับกำลังวัตต์ได้อย่างเหมาะสม
6. ความสัมพันธ์ของเครื่องรีดร้อนกับงบประมาณ เครื่องรีดร้อนขนาดเล็ก หน้าเตาเล็ก กำลังไฟน้อย รองรับการผลิตขนาดสกรีนไม่ใหญ่ ปริมาณสกรีนน้อย ได้ช้า ราคาไม่แพงหลักประมาณ 9,xxx บาท หรือเครื่องรีดร้อนที่สามารถสกรีนได้หลายประเภท ราคาเริ่มต้นประมาณ 2x,xxx บาท เป็นต้น
7. มือจับหรือก้านยกของเครื่องรีดร้อน เครื่องที่มีหน้าสกรีนขนาดใหญ่ ต้องใช้แรงกดที่หนักขึ้น การพิจารณาลักษณะก้านยกหรือมือจับจึงต้องนำมาเกี่ยวข้องด้วย ถ้าก้านยาวจะช่วยลดแรงได้ดี หรือเลือกเครื่องที่ใช้ระบบอัตโนมัติก็ได้ เพื่อเลือกซื้อเครื่องให้เหมาะกับคนปฏิบัติงานประจำเครื่อง
8. เครื่องรีดร้อนนั้นต้องมีอุปกรณ์ป้องกันความร้อน แผ่นเทปกันความร้อน เทปล่อน เพื่อป้องกันความเสียหายจากความร้อนไม่ให้ลงไปที่ผ้าโดยตรง ป้องกันหน้าเตาสกปรก ป้องกันการขยับตำแหน่ง ป้องกันอันตรายที่อาจเกิดกับผู้ปฏิบัติงานได้ด้วย
9. เครื่องสกรีน เครื่องรีดร้อน สำหรับเสื้อยืดควรเป็นเครื่องที่สามารถสวมชายเสื้อเข้าไปได้ เพื่อไม่ให้โดนลายสกรีนอีกด้านกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นได้กับเสื้อยืดอีกด้านหนึ่ง
10. การบำรุงรักษาเครื่องรีดร้อน ถือเป็นจุดสำคัญเช่นกัน เมื่อมีการใช้งานเครื่องเป็นประจำ ย่อมต้องมีการดูแลบำรุงรักษา ซึ่งเครื่องเหล่านี้ควรมีการบำรุงรักษาที่ไม่ยุ่งยาก ราคาไม่สูง จึงจะทำให้ผู้ดูแลประจำเครื่องไม่ละเลยในการปฏิบัติงาน จะสามารถช่วยให้เครื่องมีอายุการใช้งานที่ยาวนานได้
11. การรับประกัน สอบถามกับผู้ผลิต ผู้จำหน่าย ถึงกระบวนการรับประกัน เงื่อนไข ระยะเวลา เพื่อให้สามารถเป็นข้อมูลในการตัดสินใจเลือกซื้อเครื่องรีดร้อนได้